แนวข้อสอบวิชาฟิสิกส์
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้ทำให้การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นการตกแบบเสรี
กำหนดให้ การเคลื่อนที่ทุกข้อ ไม่คิดแรงต้านอากาศ
1. โยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่ง
2. ปล่อยลูกกอล์ฟจากยอดตึกให้ตกลงมาในแนวดิ่ง
3. ยิงลูกปืนจากยอหน้าผาออกไปในแนวระดับ
4. ผูกถุงทรายเข้ากับสปริงในแนวดิ่งซึ่งตรึงไว้กับเพดาน ดันถุงทรายขึ้นแล้วปล่อย
เฉลยข้อ 4
แนวคิด การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เป็นการตกอย่างเสรี และไม่คิดแรงต้านอากาศแรงที่เกิดกับวัตถุจะ
มีเพียงแรงดึงดูดระหว่างมวลของโลกกับวัตถุ (ซึ่งก็คือน้ำหนัก Weight) ในทิศพุ่งลงสู่พื้นโลกและวัตถุจะเคลื่อนที่โดยมีความเร่งเท่ากับความเร่งจากสนามโน้มถ่วง (g) ในทิศพุ่งลงสู่พื้นโลกซึ่งสามารถพิสูจน์จากสมการกฏการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน
ตัวเลือกที่ 1 การโยนก้อนหินขึ้นไปในแนวดิ่งหลังจากก้อนหินหลุดจากมือไปแล้วแรงที่กระทำต่อ
2. วัตถุ A มีมวล 10 กิโลกรัม วางอยู่นิ่งบนพื้น ส่วนวัตถุ B ซึ่งมีมวลเท่ากันกำลังตกลงสู่พื้นโลกถ้าไม่
คิดแรงต้านอากาศ และกำหนดให้ทั้ง A และ B อยู่ในบริเวณที่ขนาดสนามโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ 9.8
นิวตัน /กิโลกรัม ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. วัตถุทังสองมีน้ำหนักเท่ากัน
2. วัตถุทังสองมีอัตราเร่งในแนวดิ่งเท่ากัน คือ 9.8 เมตร/วินาที2
3. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ A มีขนาดเทากับ 98 นิวตัน
4. แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ B มีขนาดเท่ากับ 98 นิวตัน
เฉลยข้อ 2
แนวคิด พิจารณาวัตถุ A (วางนิ่งบนพื้น)
ตัวเลือกที่ 1 ถูกต้องเนื่องจากวัตถุทั้งสองมีมวลเท่ากัน และอยู่ที่ผิวโลกเหมือนกันน้ำหนักของวัตถุจึงมี ค่า (w = mg = (10)(9.8) = 98 N) เท่ากัน
ตัวเลือกที่ 2 ไม่ถูกต้องวัตถุ B เคลื่อนที่ด้วยความเร่งจากสนามโน้มถ่วงโลก (a = g = 9.8 m/s2)
ในทิศลงสู่ผิวโลกแต่วัตถุ A หยุดบนพื้นความเร่งที่เกิดกับวัตถุ A มีค่าเป็นศูนย์
ตัวเลือกที่ 3 ถูกต้องแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ A คือ น้ำหนัก (w = mg = (10) (9.8) = 98 N)
ตัวเลือกที่ 4 ถูกต้องแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ B คือ น้ำหนัก (w = mg = (10) (9.8) = 98 N)
3. จากแผนภาพแสดงลักษณะของเส้นสนามแม่เหล็กที่เกิดจากแท่งแม่เหล็กสองแท่ง
ข้อใดบอกถึงขั้วแม่เหล็กที่ตำแหน่ง A, B, C และ D ได้ถูกต้อง
1. A และ C เป็นขั้วเหนือ B และ D เป็นขั้วใต้
2. A และ D เป็นขั้วเหนือ B และ C เป็นขั้วใต้
3. B และ C เป็นขั้วเหนือ A และ D เป็นขั้วใต้
4. B และ D เป็นขั้วเหนือ A และ C เป็นขั้วใต้
เฉลยข้อ 3
แนวคิด เส้นสนามแม่เหล็ก (magnetic field lines) เป็นเส้นแสดงถึงอิทธิพลทางแม่เหล็กของ
แม่เหล็ก สังเกตได้จากแนวการวางตัวของผงตะไบเหล็กรอบ ๆ แท่งแม่เหล็กส่วนทิศทางของเส้นสนามแม่เหล็กหาได้จากการวางตัวของเข็มทิศ ซึ่งชี้ออกจากขั้วแม่เหล็กเหนือและพุ่งเข้าหาขั้วแม่เหล็กใต้ ดังรูป
เมื่อพิจารณาขั้วแม่เหล็กทีละขั้วพบว่า
ขั้วแม่เหล็ก A เป็นขั้วแม่เหล็กใต้เพราะเส้นสนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งเข้าหาขั้วแม่เหล็ก
ขั้วแม่เหล็ก B เป็นขั้วแม่เหล็กเหนือเพราะเส้นสนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งออกจากขั้วแม่เหล็ก
ขั้วแม่เหล็ก C เป็นขั้วแม่เหล็กเหนือ เพราะเส้นสนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งออกจากขั้วแม่เหล็ก
ขั้วแม่เหล็ก D เป็นขั้วแม่เหล็กใต้เพราะเส้นสนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งเข้าหาขั้วแม่เหล็ก
4. บริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม ABCD เป็นบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสม่ำเสมอซึ่งมีทิศพุ่งออกตั้งฉากกับกระดาษ
ดังรูป
ข้อใดต่อไปนี้จะทำให้อนุภาคโปรตอนเคลื่อนที่เบนเข้าหาด้าน AB ได้
1. ยิงอนุภาคโปรตอนเข้าไปในบริเวณ จากทางด้าน AD ในทิศตั้งฉากกับเส้น AD
2. ยิงอนุภาคโปรตอนเข้าไปในบริเวณ จากทางด้าน BC ในทิศตั้งฉากกับเส้น BC
3. ยิงอนุภาคโปรตอนเข้าไปในบริเวณ จากทางด้าน AD ในแนวขนานกับเส้น AC
4. ยิงอนุภาคโปรตอนเข้าไปในบริเวณ จากทางด้าน DC ในแนวขนานกับเส้น DB
เฉลยข้อ 2
แนวคิด เมื่อประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่เข้าสู่บริเวณสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงกระทำต่อประจุไฟฟ้าซึ่ง
สามารถหาแรงกระทำดังกล่าวได้จากสมการ
ทิศทางของแรง สามารถหาได้จากกฎมือขวา ดังแสดงในรูปด้านล่าง
โจทย์ระบุให้อนุภาคโปรตอนเคลื่อนที่เข้าไปในบริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม ABCD ซึ่งมีสนามแม่เหล็ก
พุ่งออกจากกระดาษ (แสดงด้วย l) จะเกิดแรงกระทำต่อโปรตอนทำให้ทิศทางการเคลื่อนที่ของ
โปรตอนเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางของแรง (ซึ่งสามารถหาได้จากกฏมือขวา)
5. วางอนุภาคอิเล็กตรอนลงในบริเวณซึ่งมีเฉพาะสนามไฟฟ้าที่มีทิศไปทางขวาดังรูป
อนุภาคอิเล็กตรอนจะมีการเคลื่อนที่เป็นไปตามข้อใด
1. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนขึ้นข้างบน
2. เคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง เบนลงข้างล่าง
3. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนานกับสนามไฟฟ้า ไปทางขวา
4. เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนานกับสนามไฟฟ้า ไปทางซ้าย
เฉลยข้อ 4
ถาม – ตอบ
1. จากรูปที่กำหนดให้อุณหภูมิที่อ่านได้โดยตรงและค่าที่ต้องประมาณคือเท่าใด
ตอบ 43.20oC
เหตุผล เนื่องจากระดับปรอทอยู่ตรงระดับที่เลย 430Cไปประมาณ 0.20C และค่าที่ต้องประมาณคือ
ทศนิยมตำแหน่งที่ 2 ซึ่งตามตัวเลือกกำหนดให้เป็น 0.080C แสดงว่าค่าที่ต้องประมาณคือ 0.080C ส่วนค่าที่อ่านได้โดยตรงคือ 43.200C
2. การวัดความหนาของแผ่นกระดาษ 1 แผ่น เราจะใช้เครื่องมือวัดใดจึงจะเหมาะสม
ตอบ เวอร์เนียร์
เหตุผล เครื่องมือวัดมีผลกระทบบ้างในแง่ขีดจากัดการใช้งานของเครื่องมือ ซึ่งเครื่องมือที่สร้างขึ้นจะมีความคลาดเคลื่อนในตัวของมันเองอยู่แล้ว
วิธีการวัด มีผลกระทบเล็กน้อย
ผู้ทำการวัด มีผลกระทบเล็กน้อย ถ้าเข้าใจวิธีการวัดและการใช้เครื่องมืออย่างดี
สภาพแวดล้อมขณะทำการวัด มีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะถ้าต้องการทราบความเข้มแสงที่ระยะห่างจากหลอดไฟ 1m ควรต้องทำในห้องมืดไม่มีแสงแสงจากที่อื่นเข้าไปรบกวนแสงจากหลอดไฟเลย
3. ขวดใบหนึ่งมีปริมาตร 1,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร บรรจุเม็ดถั่วไว้เต็ม ถ้าเม็ดถั่วแต่ละเม็ดถือว่าเป็น
ทรงกระบอกเล็ก ๆ ยาว 2 เซนติเมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 1.5 เซนติเมตร ในขวดใบนี้จะมีเม็ดถั่ว
ประมาณกี่เม็ด
ตอบ 280 เม็ด
4. จากการวัดน้ำหนักของนักเรียนในห้องแยกเป็นนักเรียนชายและหญิง การนำเสนอข้อมูลโดยนำ
น้ำหนักกับจำนวนนักเรียนและเพศมาแสดงโดยใช้แผนภูมิทางสถิติ แผนภูมิแบบใดเหมาะสมที่สุด
สำหรับกรณีนี้
ตอบ แผนภูมิแท่ง
เหตุผล แผนภูมิแท่ง จะเป็นแผนภูมิที่เหมาะสมมากสำหรับกรณีนี้ เพราะดูจากแผนภูมิแท่งที่จำลองขึ้นจะเห็นว่าในช่วงน้ำหนักต่างๆ จะเห็นความแตกต่างของจำนวนนักเรียนหญิงและนักเรียนชายได้ชัดเจนมาก
5. มีส้มเขียวหวาน 100 ลูกชั่งน้ำหนักของส้มเขียวหวานแต่ละลูก แล้วบันทึกลงในตารางบันทึกข้อมูลได้
ดังนี้
ถ้านำข้อมูลจากตารางบันทึกข้อมูลนี้มาแสดงโดยใช้แผนภูมิทางสถิติ แผนภูมิใดเหมาะสมที่สุดอื่น
ตอบ แผนภูมิวงกลม
เหตุผล
พิจารณาจากแผนภูมิทางสถิติทั้ง 3 แบบของจำนานส้มเขียวหวานในช่วงน้ำหนักต่างๆได้ชัดเจนกว่าแผนภูมิลักษณะอื่น
6. วิชาฟิสิกส์สามารถแยกออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ ฟิสิกส์แยกการศึกษาออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ฟิสิกส์ยุคเก่า (Classical Physics) เป็นการศึกษาเพื่อค้นคว้าหาหลักเกณฑ์และขบวนการต่างๆที่จะนำมาอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สังเกตเห็นได้ด้วยตา หมายความว่าเป็นการศึกษาระบบที่เกี่ยวกับมวลที่มีขนาดใหญ่ ๆ เช่น การเคลื่อนที่ของวัตถุต่าง ๆ
2. ฟิสิกส์ยุคใหม่ (Modern Physics) เป็นการศึกษาสิ่งที่เร้นลับที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เช่น โครงสร้างอะตอม พลังงานที่ได้จากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ฯลฯ
7. เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์มีความจำเป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ 1. เครื่องมือวัดช่วยทำให้เราสามารถวัดปริมาณต่าง ๆ ที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
2. เครื่องมือวัดทำให้เราสามารถวัดปริมาณต่าง ๆที่ประสาทการรับรู้ของมนุษย์ไม่สามารถตรวจ สอบได้โดยตรง
3. งานต่าง ๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์หรือฟิสิกส์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยเครื่องมือเข้าช่วย
*** เครื่องวัด ช่วยให้ได้มาซึ่งข้อมูลใหม่ ๆ ที่ต้องการ ***
กฎ ก.ตร.
ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2553
1. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2553 มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดกี่วัน
ก. 30 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. 45 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ค. 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. ในการแต่ตั้งข้าราชการตำรวจตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. ควรคำนึง พฤติกรรม การปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของบุคคล
ข. พิจารณาจากความรู้ความสามารถ
ค. ต้องผ่านอบรมตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ควรคำนึง พฤติกรรม การปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของบุคคล
3. หน่วยงานใดทำหน้าที่เป็นศูนย์ส่งเสริมจริยธรรมและพัฒนาคุณภาพของข้าราชการตำรวจ
ก. กองบัญชาการศึกษา ข. สถาบันฝึกอบรม
ค. จเรตำรวจแห่งชาติ ง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตอบ ก. กองบัญชาการศึกษา
4. กองบัญชาการศึกษามีหน้าที่อะไร
ก. กำหนดชี้วัดและหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อประกาศเชิดชูเกียรติหน่วยงานข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีเยี่ยม
ข. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่กำหนดกำหนดหลักสูตรพัฒนาและฝึกอบรมข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับจริยธรรมและจรรยาบรรณ
ค. สร้างเครื่องข่ายทั้งภายในและภายนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อส่งเสริมจริยธรรมและจรรยาบรรณของข้าราชการตำรวจ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
5. การประกาศเชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานใด
ก. จเรตำรวจแห่งชาติ ข. ก.ตร.
ค. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ง. ผู้อำนวยการกองบัญชาการศึกษา
ตอบ ข. ก.ตร.
6. การประกาศเชิดชูเกียรติหน่วยงานและข้าราชการตำรวจในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจต้องกระทำเมื่อใด
ก. ทุกๆ 3 เดือน ข. ทุกๆ 6 เดือน
ค. ทุกๆ 1 ปี ง. ทุกๆ 2 ปี
ตอบ ค. ทุกๆ 1 ปี
7. หน่วยงานใดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทีต้องนำประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจไปกำหนดเป็นหลักสูตรการเรียนการสอน
ก. จเรตำรวจแห่งชาติ ข. กองบัญชาการศึกษา
ค. สถานบันการฝึกอบรม ง. ทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตอบ ค. สถานบันการฝึกอบรม
8. หน่วยงานใดมีอำนาจและหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ
ก. จเรตำรวจแห่งชาติ ข. กองบัญชาการศึกษา
ค. สถานบันการฝึกอบรม ง. ทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตอบ ก. จเรตำรวจแห่งชาติ
9. หน่วยงานใดมีหน้าที่สอดส่องดูแลการรักษาประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ
ก. จเรตำรวจแห่งชาติ ข. กองบัญชาการศึกษา
ค. สถานบันการฝึกอบรม ง. ทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตอบ ก.จเรตำรวจแห่งชาติ
10. ข้อใดคืออำนาจและหน้าที่ของจเรตำรวจแห่งชาติ
ก. ให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ
ข. จัดทำคู่มือและคำอธิบายแนวทางปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม
ค. สอดส่องดูแลการักษาประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบ
กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556
**********************
1. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด
ก. 3 มิถุนายน 2556 ค. 5 มิถุนายน 2556
ข. 4 มิถุนายน 2556 ง. 6 มิถุนายน 2556
ตอบ ค. 5 มิถุนายน 2556
2. กฎ ก.ตร. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันใด
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน
ค. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน
ง. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 180 วัน
ตอบ ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 มีกี่หมวด
ก. 6 หมวด 1 บาเฉพาะกาล ค. 9 หมวด 1 บาเฉพาะกาล
ข. 8 หมวด 1 บาเฉพาะกาล ง. 7 หมวด 1 บาเฉพาะกาล
ตอบ ค. 9 หมวด 1 บาเฉพาะกาล
หมวด ๑ บททั่วไป
หมวด ๒ การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวน
หมวด ๓ หน้าที่คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวน
หมวด ๔ วิธีการสืบสวน
หมวด ๕ การทำรายงานสืบสวน
หมวด ๖ สิทธิและหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหา
หมวด ๗ การพิจารณาสั่งสำนวนการสืบสวน
หมวด ๘ การสืบสวนที่มิชอบและบกพร่อง
หมวด ๙ การนับระยะเวลา
4. กรณีที่ควรทำการสืบสวนข้อเท็จจริง
ก. ผู้บังคับบัญชามีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัย
ข. ส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานอื่นแจ้งมาให้ทราบว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือสงสัยว่ากระทำผิดวินัย
ค. มีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยโดยผู้ร้องเรียนนั้นได้แจ้งชื่อและที่อยู่ของตนเองเป็นที่แน่นอน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ข้อ ๕ ภายใต้บังคับข้อ ๓ กรณีที่ควรทำการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้แก่
(๑) ผู้บังคับบัญชามีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัย
(๒) มีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยโดยผู้ร้องเรียนนั้นได้แจ้งชื่อและที่อยู่ของตนเองเป็นที่แน่นอน พร้อมทั้งระบุพฤติการณ์แห่งกรณีที่กล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยนั้น
(๓) ส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานอื่นแจ้งมาให้ทราบว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือสงสัยว่ากระทำผิดวินัย
(๔) มีบัตรสนเท่ห์กล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัย ตามปกติการร้องเรียนกล่าวหาข้าราชการตำรวจว่ากระทำผิดวินัยในลักษณะเป็นบัตรสนเท่ห์ห้ามมิให้รับฟัง เว้นแต่บัตรสนเท่ห์นั้นระบุข้อเท็จจริง พยานหลักฐานกรณีแวดล้อม และหรือระบุพยานบุคคล พยานวัตถุ หรือพยานเอกสารชี้แนะแนวทางเพียงพอที่จะดำเนินการสืบสวนได้
(๕) กรณีปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนใด ๆ ว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยตามปกติหากไม่มีชื่อและที่อยู่ของผู้ร้องเรียนกล่าวหาห้ามมิให้รับฟัง เว้นแต่ข่าวในสื่อมวลชนนั้นระบุข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน กรณีแวดล้อม และหรือระบุพยานบุคคล พยานวัตถุ หรือพยานเอกสารชี้แนะแนวทางเพียงพอที่จะดำเนินการสืบสวนได้
(๖) กรณีอื่น ๆ ที่ผู้บังคับบัญชาเห็นควรให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง
5. ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนจะต้องไม่เป็นบุคคลใด
ก. มีส่วนได้เสียในเรื่องที่สืบสวน
ข. รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สืบสวน
ค. มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกสืบสวน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ข้อ ๙ ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนยกเว้นนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวน จะต้องไม่เป็นบุคคลดังต่อไปนี้
(๑) รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สืบสวน
(๒) มีส่วนได้เสียในเรื่องที่สืบสวน
(๓) มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกสืบสวน
(๔) เป็นผู้ร้องเรียนกล่าวหาหรือเป็นคู่สมรส บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือพี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมบิดาหรือมารดากับผู้ร้องเรียนกล่าวหา
(๕) มีเหตุอย่างอื่นซึ่งน่าเชื่ออย่างยิ่งว่าจะทำให้การสืบสวนเสียความเป็นธรรม
6. ในกรณีแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน ให้มีคณะกรรมการซึ่งเป็นข้าราชการประจำอย่างน้อยกี่คน
ก. 5 คน ค. 6 คน
ข. 3 คน ง. 4 คน
ตอบ ข.
ในกรณีแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน ให้มีคณะกรรมการซึ่งเป็นข้าราชการประจำอย่างน้อยสามคนประกอบด้วยข้าราชการตำรวจอย่างน้อยกึ่งหนึ่ง โดยให้มีเลขานุการหนึ่งคน เลขานุการอาจจะแต่งตั้งจากกรรมการสืบสวนคนใดคนหนึ่งก็ได้ ในกรณีจำเป็นจะให้มีผู้ช่วยเลขานุการก็ได้
7. ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวน
ก. สืบสวนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาที่กำหนดในกฎ ก.ตร. นี้ เพื่อแสวงหาความจริงในเรื่องที่กล่าวหาและดูแลให้บังเกิดความยุติธรรมตลอดการสืบสวน
ข. จัดทำบันทึกการปฏิบัติงานที่มีการสืบสวนไว้ทุกครั้ง
ค. รวบรวมประวัติของผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กล่าวหาเท่าที่จำเป็นเพื่อประกอบการพิจารณา
ง. เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทุกข้อ
ตอบ ง. เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทุกข้อ
ข้อ ๑๔ คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนมีหน้าที่
(๑) สืบสวนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาที่กำหนดในกฎ ก.ตร. นี้ เพื่อแสวงหาความจริงในเรื่องที่กล่าวหาและดูแลให้บังเกิดความยุติธรรมตลอดการสืบสวน
(๒) รวบรวมประวัติของผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กล่าวหาเท่าที่จำเป็นเพื่อประกอบการพิจารณา
(๓) จัดทำบันทึกการปฏิบัติงานที่มีการสืบสวนไว้ทุกครั้ง
(๔) ห้ามมิให้บุคคลอื่นเข้าร่วมทำการสืบสวน
8. การสืบสวนข้อเท็จจริงต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 60 วัน
ข. 45 วัน ง. 90 วัน
ตอบ ค. 60 วัน
ข้อ ๑๗ การสืบสวนข้อเท็จจริง คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องดำ เนินการตามกำหนดเวลาดังนี้
(๑) สืบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวนได้รับทราบคำสั่ง หากครบกำหนดหกสิบวันแล้วยังไม่แล้วเสร็จให้ขออนุมัติขยายระยะเวลาต่อผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวน ให้ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนพิจารณาอนุมัติได้ตามความจำเป็น แต่ทั้งนี้ห้ามมิให้ขยายระยะเวลาสืบสวนต่อไปอีกเกินหกสิบวัน หากมีการขยายระยะเวลาแล้วการสืบสวนไม่แล้วเสร็จภายในหกสิบวันให้ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวนรายงานเหตุให้ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนทราบและให้เป็นหน้าที่ของผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนติดตามเร่งรัดการสืบสวนต่อไป
9. การนำเอกสารหรือวัตถุมาใช้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนการสืบสวนต้องบันทึกสิ่งใดบ้าง
ก. บันทึกว่าได้มาอย่างไร ค. บันทึกว่าได้มาเมื่อใด
ข. บันทึกว่าได้มาจากผู้ใด ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ข้อ ๑๘ การนำเอกสารหรือวัตถุมาใช้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนการสืบสวนให้บันทึกไว้ด้วยว่าได้มาอย่างไร จากผู้ใด และเมื่อใด
10. การสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานของคณะกรรมการสืบสวนต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่ากี่คนจึงจะสืบสวนได้
ก. 1 คน ค. 3 คน
ข. 2 คน ง. 4 คน
ตอบ ข. 2 คน
ข้อ ๒๐ การสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานของคณะกรรมการสืบสวนต้องมีกรรมการ
สืบสวนไม่น้อยกว่าสองคนจึงจะสืบสวนได้
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )